กรุงไทย คอมพาส คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติ 22.5 ล้านคนในปี 2566


นักท่องเที่ยวถึงสุวรรณภูมิ 8 ม.ค. คาดต่างชาติปีนี้แตะ 22.5 ล้านคน  วรุธ หิรัญยเทพ

นักท่องเที่ยวถึงสุวรรณภูมิ 8 ม.ค. คาดต่างชาติปีนี้แตะ 22.5 ล้านคน วรุธ หิรัญยเทพ

Krungthai Compass ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยภายใต้ธนาคารกรุงไทยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าของจำนวนที่บันทึกไว้ในปีที่แล้ว โดยประเมินว่าจะใช้เวลาสองปีในการกลับสู่ระดับเดิมในปี 2562

สำนักวิจัยคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้จะสูงถึง 22.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 10.2 ล้านคนที่คาดไว้ในปี 2565 โดยกรุงไทยคอมพาสคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 4.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% จากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 4 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจาก พัชรพจน์ นันทรามาศ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า จีนกลับมาเปิดทำการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ปีนี้

จำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งหมดอาจเกิน 22.5 ล้านคน หากปักกิ่งผ่อนคลายนโยบายปลอดโควิดเพิ่มเติม

ก่อนเกิดโรคระบาด จำนวนชาวจีนที่มาเยือนไทยเฉลี่ยปีละ 10 ล้านคน และรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็น 20% ของ GDP ประเทศไทย

“เราคาดว่าการท่องเที่ยวไทยจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้” นายพัชรพจน์กล่าว

“จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะอยู่ที่ 22.5 ล้านคนในปีนี้ และ 32.5 ล้านคนในปีหน้า ใกล้กับจำนวนเกือบ 40 ล้านคนในปี 2568 ในปี 2568”

ประเทศไทยควรเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเปลี่ยนจากกลไกสำคัญของการส่งออกไปสู่การท่องเที่ยว เขากล่าว

กรุงไทยเข็มทิศคาดการณ์อัตราการเติบโตของจีดีพีของประเทศในปีนี้จะอยู่ที่ 3.4% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากประมาณการการเติบโตที่ 3.2% ในปี 2565

สำนักวิจัยคาดการณ์การเติบโตของการส่งออกไทยในปีนี้เพียง 0.7% ลดลงอย่างมากจากการคาดการณ์อัตราการเติบโต 7% ในปีที่แล้ว

การขาดแคลนห่วงโซ่อุปทานและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการส่งออกของไทยในปีนี้ ผู้วิจัยกล่าว

กรุงไทยเข็มทิศคาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้ชะลอตัว ขณะที่ยูโรโซนเข้าสู่ภาวะถดถอย OECD คาดการณ์การเติบโตของ GDP สำหรับทั้งสหรัฐอเมริกาและยูโรโซนที่ 0.5%

นายพัชรพจน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยควรเปลี่ยนจากอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นขาขึ้นโดยเริ่มตั้งแต่ปีนี้

ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าจะยังคงเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2% ภายในสิ้นปีนี้ และเป็น 2.5% ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 1.25% ในปัจจุบัน เพื่อพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้คาดการณ์ไว้ที่ 3.1% เหนือกรอบเป้าหมายที่ 1-3% ของธนาคารกลาง

สำนักวิจัยคาดการณ์ว่าเงินบาทจะยังคงแข็งค่าต่อไปที่ระดับ 33-34 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนนี้ จากนั้นจะคงอยู่ในช่วง 33.75-36.50 บาทต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ เขากล่าว



ข่าวต้นฉบับ