เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ คาดการณ์ว่าการซื้อเสียงจะมีมากในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึง เนื่องจากนักการเมืองบางคนยังคงเอาเรื่องเงินมาปะปนกับการเมือง
นายชวนกล่าวว่าผลสำรวจที่จัดทำโดยรัฐสภาแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความกังวลเกี่ยวกับการทุจริตและเรียกร้องให้มีมาตรการแก้ไขปัญหา
”เมื่อพูดถึงการเมืองเรื่องเงิน นักการเมืองจะแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างไร้ยางอาย
”ถ้าผู้สมัครส.ส.ใช้เงิน [buying votes]พวกเขาได้มันมาจากไหน? เห็นได้ชัดว่ามาจากคนที่รวยพอที่จะให้เงินเขา” นายชวนกล่าว
”เราต้องหาเสียงและบอกประชาชนว่าถ้าอยากได้รัฐบาลที่ดี ก็ต้องเลือก ส.ส.ที่เหมาะสม
”หากพวกเขาต้องการรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ พวกเขาต้องลงคะแนนเสียงเลือกส.ส.ที่ซื่อสัตย์ ถ้าคุณเลือกคนที่ทุจริต คุณก็จะได้รัฐบาลที่ทุจริต และปัญหาจะตกอยู่กับประชาชนและประเทศ
“เลือกตั้งครั้งหน้าต้องไม่เลือกนักการเมืองที่ทุจริต” นายชวนกล่าว
นอกจากนี้เขายังยอมรับว่าเขากังวลว่าการเมืองเรื่องเงินและนักการเมืองที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงจะนำไปสู่การที่กองทัพทำรัฐประหารอีกครั้ง
ชวน : ห่วงการเมืองเรื่องเงิน
‘รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งถูกขนานนามว่าออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นการรับสินบนยังคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ เนื่องจากการทุจริตยังคงเพิ่มสูงขึ้น” นายชวนกล่าว
นายชวนยังตั้งข้อสังเกตว่าขณะนี้หลายพรรคให้ความสำคัญกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้ แม้ว่าภูมิภาคนี้จะมีที่นั่งในสภาไม่มากนักเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
”ในอดีต การเมืองเรื่องเงินไม่ได้มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคนี้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้แพร่กระจายไปยังภูมิภาคในขณะที่สถานะทางการเงินของชาวภาคใต้ก็เปลี่ยนไปเช่นกันเนื่องจากพวกเขาประสบกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจและมีรายได้น้อยลง
”ผมเคยเขียนไปแจ้งประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่ารายได้ของคนในภาคใต้ เช่น ระนอง และตรัง ลดลงในอัตราที่น่าตกใจ” นายชวนกล่าวต่อ
”เมื่อพวกเขามีรายได้น้อยลง ชีวิตของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นักการเมืองได้ก้าวเข้ามาและใช้จ่ายเงิน มันทำให้พวกเขาเสียเงินน้อยลง [buying votes in the South] กว่าภูมิภาคอื่นๆ
“นั่นเป็นเหตุผลที่นักการเมืองหลายคนแห่กันไปที่ภูมิภาคนี้” เขากล่าวเสริม