อัตราเงินเฟ้อในประเทศเล็กๆ ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลอย่างลาวได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ณ สิ้นปี 2565 เนื่องจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่พยายามคลายความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่สูงขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติของประเทศรายงานอัตราเงินเฟ้อปีต่อปีที่เกือบ 39.3% ในเดือนธันวาคม 2565 เพิ่มขึ้นจาก 38.5% ในเดือนก่อนหน้า ทำให้สูงที่สุดในบรรดาสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เพื่อเป็นการตอบโต้ ทางการลาวได้สั่งปิดร้านรับแลกเปลี่ยนเงินทั้งหมด และขณะนี้อนุญาตให้เฉพาะธนาคารเท่านั้นที่รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลยังห้ามนำเข้าสินค้าที่ผลิตในประเทศหลายชนิด เช่น ผัก ไข่ เนื้อหมู เนื้อวัว และปลา
เจ้าหน้าที่การค้าบอกกับ RFA ว่าทางการถูกบังคับให้ใช้มาตรการทางเศรษฐกิจที่รุนแรง เนื่องจากลาวประสบกับปัญหาขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 926 ล้านดอลลาร์ในปี 2565
“เรากำลังวางแผนที่จะลดการนำเข้าสินค้าและส่งเสริมการผลิตในประเทศ” เจ้าหน้าที่การค้าจากแขวงสะหวันนะเขตบอกกับกองบริการลาวของ RFA โดยไม่เปิดเผยชื่อ “เรามีสินค้าจำนวนมากที่ผลิตในประเทศอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือผู้บริโภคของเราชอบสินค้านำเข้ามากกว่าสินค้าในประเทศ”
อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นบททดสอบสำหรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Sonexay Siphandone ซึ่งเริ่มวาระใหม่ในปีนี้โดยสัญญาว่าจะ “ยกระดับจิตวิญญาณของการปฏิวัติไปสู่ระดับสูงสุด” เจ้าหน้าที่เศรษฐกิจระดับสูงต่างหวังให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวและคลายข้อจำกัดด้านการเดินทาง โดยเฉพาะจากจีน
ทางการได้ห้ามนำเข้ากะหล่ำปลี กระเทียม ผักกาด บรอกโคลี หัวหอม พริกขี้หนู ขึ้นฉ่าย ไข่ หมู เป็ด เนื้อวัว ปลานิล และปลาน้ำจืดอื่นๆ ทั้งหมด คณะรัฐมนตรีของลาวตกลงห้ามนำเข้าในการประชุมวันที่ 24 ธันวาคม หนังสือพิมพ์ลาวพัฒนารายงาน
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางของลาวได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 13 มกราคม เพิกถอนใบอนุญาตทั้งหมดสำหรับผู้แลกเปลี่ยนเงินในประเทศ
กระทบประชาชน
ผู้มีรายได้น้อยจำนวนมากในเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาวและทั่วประเทศ เติบโตขึ้นจนยากจนลง และมีค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหาร การรักษาพยาบาล และการศึกษาน้อยลง
คนหนุ่มสาวชาวลาวจำนวนมากกำลังย้ายเข้ามาในประเทศไทยเพื่อหางานทำ โดย Migrant Working Group ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศไทยประเมินว่ามีผู้คนมากกว่า 50,000 คนย้ายจากลาวมาทำงานในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา โดยมีชาวลาวประมาณ 250,000 คนทำงานในประเทศอย่างถูกกฎหมาย .
คาดว่าชาวลาวเกือบครึ่งล้านจะทำงานในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต คนงานหลายคนที่ RFA พูดด้วยบอกว่าย้ายเพราะหางานในลาวไม่ได้
“เดอะ [import] การห้ามจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของเรา แต่เราต้องมีการผลิตในประเทศบ้าง” นักเศรษฐศาสตร์ชาวลาวคนหนึ่งกล่าวกับ RFA “หากราคาของเราต่ำกว่าสินค้านำเข้า คนก็จะบริโภคสินค้าของเรา”
ในทำนองเดียวกัน พนักงานของบริษัทนำเข้า-ส่งออกแห่งหนึ่งในเวียงจันทน์บอกกับ RFA ว่าบริษัท “ประสบกับปัญหายอดขายตกต่ำ เพราะสินค้าแพงขึ้นเรื่อยๆ แพงเกินไปสำหรับชาวลาวจำนวนมาก”
แม้ว่าคำสั่งห้ามนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าการผลิตในประเทศของสินค้าต้องห้ามจะเพียงพอสำหรับป้อนตลาดลาวหรือไม่
แปลโดย Max Avary เรียบเรียงโดย Nawar Nemeh และ Jim Snyder