สร้างอนาคต นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคเพื่อไทย (ภาพ : ณัฐวัฒน์ วิเชนทร์บุตร)
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างชาติไทย เรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับภูมิภาคของไทย เนื่องจากการรอจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่อาจทำให้ประเทศเสียโอกาสที่ดีในการไล่ตามคู่แข่ง
ความรู้สึกดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายพิเศษของเขาในคืนวันเสาร์ในงานคืนสู่เหย้าที่จัดให้กับศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งนายสมคิด ก็เป็นหนึ่งในนั้น
การกระจายอำนาจเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในความพยายามของไทยในการปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่สำคัญในการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา เขากล่าว
“หากรัฐบาลยังไม่ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง ก็จะสูญเสียการสนับสนุนจากหุ้นส่วนในภูมิภาคในเรื่องนี้” เขากล่าว
ขณะเดียวกัน อินโดนีเซียก็กลายเป็น 1 ใน 2 ดาวรุ่งของภูมิภาค จากความสำเร็จในการกระจายอำนาจรัฐไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายสมคิดกล่าว
แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะซบเซา แต่อินโดนีเซียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 7% โดยเฉลี่ยเป็นเวลาหลายปี เขากล่าว พร้อมเสริมว่านั่นเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของผู้นำอินโดนีเซียที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์เป็นนโยบายที่จับต้องได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“ประเทศไทยเริ่มขับเคลื่อนการกระจายอำนาจของตนเองในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปมากกว่าในหนังสือธรรมนูญ” เขากล่าว
ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งในภูมิภาคนี้ เขากล่าว
ปัจจุบัน เวียดนามได้รับประโยชน์อย่างมากจากธุรกิจไอทีที่ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศจากจีน เขากล่าว
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่สนับสนุนความสำเร็จของทั้งอินโดนีเซียและเวียดนามคือการที่รัฐบาลของพวกเขากล้าพอที่จะแก้ไขกฎหมายกว่าร้อยฉบับที่ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคในการทำงานเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ เขากล่าว
มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ เติบโตในปีหน้า แม้ว่าผลกระทบจากราคาพลังงานที่สูงและอัตราเงินเฟ้ออาจยังคงอยู่ต่อไป เขากล่าว