เทศกาลแสงสีและศิลปะดิจิทัลประจำปีของกรุงเทพฯ “Awakening Bangkok 2022”



มุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจภาคกลางคืน ความยั่งยืนทางสังคมและเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเชิงเทศกาล

เทศกาลประดับไฟที่จัดขึ้นในธีม “Endless Tomorrow” สร้างแรงบันดาลใจและฟื้นฟูเศรษฐกิจในย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อยหลังพระอาทิตย์ตกดิน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศและสร้างบรรยากาศที่ครึกครื้นในช่วงเทศกาล

ผู้จัดงาน Time Out Bangkok ปลุกกระแสกรุงเทพฯ ร่วมกับพันธมิตร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) กรุงเทพมหานคร ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) และ BGC Glass Studio ได้สร้างสรรค์งานไลท์ติ้ง อินสตอลเลชั่น เฟสติวัล Awakening Bangkok 2022 ในธีม “Endless Tomorrow” เพื่อนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ ของย่านเจริญกรุงและตลาดน้อยที่มีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งขณะนี้การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ยุติลงแล้ว งานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนเกี่ยวกับวิธีการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อไป

นายพงษ์ศิริ เหตระกูล กรรมการผู้จัดการของ Time Out Bangkok และผู้อำนวยการเทศกาล Awakening Bangkok กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่ 5 ของเทศกาลแล้ว และหลังจากถูกโรคระบาดบีบให้เลื่อนเทศกาลในปี 2564 ไปเป็นเดือนมีนาคม 2565 เรามีความยินดีที่ได้ สามารถกลับไปสู่ตารางเวลาเดิมของเราได้ในช่วงสิ้นปี เราร่วมมือกับพันธมิตรของเราเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่และน่าจดจำให้กับทุกคนในช่วงเทศกาล 10 วันที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ถึง 25 ธันวาคม 2565 เราพร้อมที่จะยกระดับ Awakening Bangkok ไปอีกขั้นด้วยการทำให้เป็นส่วนหนึ่งของนานาชาติ ปฏิทินการท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว”

“การที่เราสามารถจัดงานติดต่อกันเป็นปีที่ 5 บ่งบอกความสำเร็จของ Awakening Bangkok ได้เป็นอย่างมาก สิ่งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนนั้นเหมาะอย่างยิ่งเมื่อคุณผลักดันสิ่งต่าง ๆ ไปข้างหน้าเพื่อประโยชน์สากล รวมถึงความพยายามดึงเอาพลังสร้างสรรค์ของชาติออกมาและส่งเสริมเศรษฐกิจในเวลากลางคืนซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะรักษา อนาคตที่สดใสของเจริญกรุง ได้รับการตอบรับที่ดีจากศิลปิน นักออกแบบ และผู้เข้าชมงานที่ผ่านมา เทศกาลนี้ช่วยสร้างความผูกพันและเติมชีวิตชีวาให้กับชุมชน สร้างแรงบันดาลใจให้กับพลังสร้างสรรค์ และช่วยพากรุงเทพฯ ไปสู่ปฏิทินการท่องเที่ยวเทศกาลระดับโลก”

ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับ ททท. สสปท. CEA และกทม. สะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายร่วมกันในการทำให้ Awakening Bangkok เป็นหนึ่งในเทศกาลหลักในปฏิทินการท่องเที่ยวของประเทศไทยและภูมิภาค ปัจจุบันเทศกาลนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในงาน “สีสันกรุงเทพฯ” ซึ่งเป็นแคมเปญสามเดือนของกรุงเทพมหานครที่มีเป้าหมายในการฟื้นฟูเมืองผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่หลากหลายระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงมกราคม 2566 มีแผนที่จะทำให้กรุงเทพฯเป็นมหานครแห่งวัฒนธรรมและเป็น แหล่งท่องเที่ยวในเทศกาลสำคัญที่จะช่วยพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของเมืองอย่างยั่งยืน

นายสานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “เทศกาลส่งท้ายปีมีทั้งแสง สี เสียง ดนตรีและศิลปะ เทศกาลเหล่านี้ซึ่งเคยจัดขึ้นและจะจัดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง มอบโอกาสให้ผู้คนได้ส่งท้ายปีด้วยช่วงเวลาที่น่าจดจำและต้อนรับปีใหม่ด้วยจิตวิญญาณอันสูงส่ง เพื่อให้ทันกับเทศกาลเฉลิมฉลองและสอดคล้องกับเทศกาลเมืองตลอดทั้งปีของผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กทม. ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ได้ริเริ่มแคมเปญเทศกาล ‘สีสันกรุงเทพฯ’ ซึ่งมีระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงมกราคม 2566 ภายใต้ 3 ธีม: เทศกาลศิลปะสร้างสรรค์ในเดือนพฤศจิกายน เทศกาลแสงสีในเดือนธันวาคม และเทศกาลดนตรีในเดือนมกราคม เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและการใช้จ่ายของประชาชน”

“Awakening Bangkok ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในงาน “เทศกาลแห่งแสง” ในปฏิทิน “สีสันกรุงเทพฯ 2022” ของกรุงเทพมหานคร เป็นสัญลักษณ์ของการเปิดพื้นที่และส่องสว่างให้เมืองและฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง” นายสานนท์กล่าวเสริม

กิตติพงษ์ ประพัททอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวภาคกลางแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า “นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่สถานการณ์โควิดคลี่คลายลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเฉลิมฉลองสิ้นปี เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างมองหาจุดหมายปลายทางที่พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับช่วงวันหยุดยาวได้ นโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและการร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดงานเทศกาลตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางชั้นนำของโลก”

“Awakening Bangkok 2022 เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างสรรค์งานยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งแห่งปี นอกจากจะตื่นตาตื่นใจแล้วยังเป็นการฉลองการเปิดประเทศและฤดูกาลท่องเที่ยวส่งท้ายปีที่สร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งคนในพื้นที่และผู้มาเยือน เราเชื่อว่างาน “สร้างสีสัน” ดังกล่าวจะกระตุ้นกระแสการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังการแพร่ระบาดคลี่คลายลงแล้ว” นายคุตติพงษ์กล่าวเสริม

นางนิชาภา ยศวีร์ รองประธานอาวุโส – ธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่า “สสปน. มองเห็นโอกาสในการพัฒนาเมืองและชุมชนด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘Festival Economy’ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน การพัฒนา. เทรนด์และพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปเป็นทางเลือกและขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์มากขึ้น และผู้สร้างเทศกาลจะต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งนักเดินทางกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง ดังนั้น ปริมาณการเดินทางของกลุ่มดังกล่าวจะส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจของเมืองเจ้าภาพและชุมชนโดยรอบ”

หัวใจสำคัญของ Awakening Bangkok คือการส่งเสริมความยั่งยืนในทุกด้าน ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของพันธมิตรทุกราย รวมถึงผู้สนับสนุนหลัก “จอห์นนี่ วอล์กเกอร์” ที่สนับสนุนงานอีเวนต์มาสามปีติดต่อกัน

นางสาวจาริณี วงศ์คำทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน หากเราต้องการร่วมกันสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนศิลปินและนักออกแบบไทยที่สามารถต่อยอดผลงานสร้างสรรค์และสร้างมูลค่าเพิ่ม สิ่งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนระยะยาวของดิอาจิโอ SOCIETY2030: SPIRIT OF PROGRESS ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดและได้รับความไว้วางใจมากที่สุด และปรัชญา KEEP WALKING ของแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจและสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้ผู้คนเคลื่อนไหว ซึ่งไปข้างหน้า.”

“ปีนี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กลับมาภายใต้แนวคิด ‘ไม่เป็นไรก็แค่เดินหน้าใช้ชีวิต’ โดยเน้น 2 ประเด็นหลักสำหรับคนรุ่นใหม่ การยอมรับความหลากหลาย และการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ข้อความนี้สะท้อนผ่านผลงานต่างๆ ที่จัดแสดงภายในงาน และบาร์ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งได้รับการออกแบบร่วมกับศิลปินชื่อดัง นอกจากนี้ แนวคิดนี้ยังถูกถ่ายทอดผ่านรสชาติใหม่ของเครื่องดื่ม 4 สูตรพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นโดยความร่วมมือกับ WASTELAND ชุมชนนักดื่มเพื่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญที่สุด เรายังคงสนับสนุนการดื่มอย่างรับผิดชอบด้วยการเน้นข้อความและกิจกรรมที่รวมอยู่ในงานนี้”

นายพงษ์ศิริสรุปว่า: “มุ่งส่งเสริมเอกลักษณ์ของเมือง ในแต่ละปี Awakening Bangkok จะสร้างสรรค์งานที่สะท้อนถึงแต่ละแนวคิดโดยเฉพาะในขณะเดียวกันก็ดึงแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์อันยาวนาน เหตุการณ์นี้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ของแนวคิดและการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ผ่านการเปิดพื้นที่และการทำงานร่วมกันของผู้คน”

“Awakening Bangkok 2022 เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เรายังคงค้นหาคำตอบ เมื่อเรายังคงสำรวจความเป็นไปได้มากมายของชีวิต เราต้องการการสนทนาและแรงบันดาลใจเกี่ยวกับวิธีสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า…สิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป พรุ่งนี้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด งานนี้สะท้อนแนวคิดดังกล่าวผ่านการมีส่วนร่วมของศิลปินรุ่นใหม่ เช่น COTH, 27 June และ Alt+r”

“ปีนี้มีความพิเศษตรงที่เราได้สร้างสองเส้นทางสำหรับสองธีมย่อย เส้นทางบางรักตอนใต้เน้นที่ “ความยั่งยืน” และเส้นทางตลาดน้อยตอนเหนือที่ “หลักฐานที่มีชีวิต” ผ่านสถานที่ใหม่ๆ แต่ละเส้นทางมีจุดเด่น ตัวอย่างเช่น ผลงานที่เป็นไฮไลท์ของเส้นทางสายใต้อยู่ที่โรงแรม Swan Hotel, Marine Police Lodge และอาคาร East-Asiatic ซึ่งอาคารหลังนี้เป็นโครงสร้างสไตล์เวนิสอายุนับศตวรรษที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ตั้งของบริษัทการค้าข้ามชาติที่มีชื่อเดียวกัน ไฮไลท์ของเส้นทางสายเหนือ ได้แก่ โรงแรมพาติน่า แบงค็อก บ้านริมฝั่งแม่น้ำและท่าเรือภาณุรังษี”

นอกจากการจัดแสดงไฟโดยศิลปินท้องถิ่นที่น่าทึ่งแล้ว ผู้เข้าชมยังสามารถคาดหวังที่จะได้เห็นการแสดงระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก ซึ่งดูแลโดยทีมงานจาก iLight Singapore ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะแสงและดิจิทัลที่คล้ายกันในสิงคโปร์ ผลงานจัดแสดงอยู่ที่โกดัง 30

“ปีนี้เราได้ขยายความร่วมมือไปยังสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงและศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และเป็นครั้งแรกที่เราได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง TikTok ที่มีเป้าหมายสนับสนุนศิลปินไทยบนแพลตฟอร์มของตน จะมีผู้สร้าง Tik Tok สร้างเนื้อหาในงาน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Awakening Bangkok ได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อภาษาอังกฤษ จีน และญี่ปุ่น เพื่อเชื่อมต่อกับทั่วโลก เราเชื่อว่าหลังการแพร่ระบาด Awakening Bangkok จะเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของโลกสำหรับประสบการณ์ใหม่และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม”

เขากล่าวเสริมว่า “นอกจากส่งเสริมวัฒนธรรมแล้ว Awakening Bangkok ยังมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอีกด้วย Awakening Bangkok 2021 ที่จัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2022 ดึงดูดผู้เข้าชมงานมากกว่า 90,000 คนตลอด 10 วัน แม้จะจัดในช่วงที่โควิด-19 ยังแพร่ระบาด แต่งานนี้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่า 115.64 ล้านบาท เราหวังว่าในครั้งนี้เทศกาลจะได้รับการต้อนรับมากยิ่งขึ้น”

“เราเชื่อว่า Awakening Bangkok จะเป็นเทศกาลที่ช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับเมืองในช่วงเทศกาลนี้ของปี โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ รายงานของ UNESCO ระบุอย่างชัดเจนถึงการเติบโตของนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั่วโลกซึ่งได้รับแรงหนุนจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของนักท่องเที่ยว พวกเขาต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเพณีของชุมชนท้องถิ่น ค้นพบและเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสัมผัสกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง ตลอดจนเรียนรู้และดื่มด่ำกับผลิตภัณฑ์และบริการทางวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น” นายพงษ์ศิริกล่าว

Awakening Bangkok ครั้งที่ 5 พบกับการติดตั้งไฟเกือบ 40 ดวงที่ส่องสว่างมากกว่า 20 สถานที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างที่ถูกลืมมานานในย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย ตั้งแต่วันที่ 16-25 ธันวาคม 2565



ข่าวต้นฉบับ