การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างสนามบินในเมืองหลวงและสนามบินอู่ตะเภาในจังหวัดระยองและเมืองการบินภาคตะวันออกคาดว่าจะเริ่มต้นในต้นปีนี้ ทิพานันท์ ศิริชนะ รองโฆษกรัฐบาลกล่าวเมื่อวันศุกร์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รักษาการแทนประธานคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมท่าอากาศยาน เนื่องจากจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ .
ภายใต้โครงการนี้ สนามบินจะเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมระหว่างสนามบินดอนเมืองในกรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณภูมิในสมุทรปราการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสนามบิน
การก่อสร้างจะครอบคลุมพื้นที่กว่า 6,500 ไร่ ในตำบลปลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมีมูลค่าการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนมูลค่าประมาณ 290,000 ล้านบาท
น.ส.ทิพานันท์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังรับทราบว่าธุรกิจต่างๆ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับกองทัพเรือเพื่อใช้สนามบินอู่ตะเภาร่วมกัน ขณะที่ ครม.เห็นชอบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) แล้ว
ท่าอากาศยานได้ตั้งเป้าหมายรองรับผู้โดยสารได้ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านคนต่อปี โดยแต่ละโครงการจะลงทุนในการให้บริการท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์และการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน
มีแนวคิดที่จะขยายการลงทุนไปยัง EEC ตลอดจนทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
โครงการนี้จะสร้างรายได้จากการให้เช่าที่ดินโดยมีส่วนแบ่งรายได้มูลค่า 305,000 ล้านบาท และภาษี 62,000 ล้านบาท โดยมีตำแหน่งงานว่างมากกว่า 15,600 ตำแหน่งในช่วง 5 ปีแรก
เทคโนโลยีและการพัฒนาฝีมือในอุตสาหกรรมการบินจะถูกเพิ่มเข้าไปในโปรแกรม หลังจากสิ้นสุดวาระ ทรัพย์สินทั้งหมดจะเป็นของรัฐบาล เธอกล่าวเสริม
นายนิรุตต์ มณีพันธุ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการอีอีซี
จะตัดสินใจว่าจะแก้ไขสัญญาเนื่องจากปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ทับซ้อนกันหรือไม่