กรุงเทพฯ (สำนักข่าวรอยเตอร์) – ประเทศไทยมีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ 0.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. หลังจากเกินดุลฉบับแก้ไขที่ 0.6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า ธนาคารกลางระบุเมื่อวันพฤหัสบดี
การส่งออกซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโต ลดลง 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน และการนำเข้าเพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 0.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุในแถลงการณ์ .
เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในเส้นทางการฟื้นตัวในเดือนพฤศจิกายน โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่สำคัญ กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอีกในเดือนธันวาคม ธปท. กล่าว
ธนาคารกลางกล่าวว่าจะติดตามอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัว การเปิดพรมแดนของจีนอีกครั้ง และราคาที่สูงขึ้น
เงินบาทแข็งค่าขึ้นในเดือนธันวาคม เนื่องจากแผนการเปิดใหม่ของจีน ทำให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. ชยวดี ชัยอนันต์ กล่าวในการแถลงข่าว
ธนาคารกลางคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 3.2% ในปีนี้ และ 3.7% ในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจแตะ 3.8% ในปีหน้า เนื่องจากมองในแง่ดีต่อแผนการเปิดใหม่ของจีน
(รายงานโดย อรทัย ศรีริง และ กิติพงษ์ ไทยเจริญ เรียบเรียงโดย คณปรียา กะปูร์)