ไทยมุ่งมั่นลดใช้พลาสติก | โลก


ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะลดการใช้พลาสติก hinh anh 1 ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะลดพลาสติก การใช้งาน (ภาพ: เอเอฟพี/วีเอ็นเอ)

กรุงเทพมหานคร (กทม.) – กระทรวงอุตสาหกรรมและการเงินของไทยกำลังใช้โปรแกรมลดภาษีเงินได้นิติบุคคลใหม่เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพมากขึ้น เพื่อลดปริมาณขยะ

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การลดภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 25% ของเงินที่บริษัทจ่ายเพื่อซื้อวัสดุย่อยสลายได้
พลาสติก ผลิตภัณฑ์ระหว่างปี พ.ศ. 2565 ถึง พ.ศ. 2567 มาตรการดังกล่าวยังสนับสนุนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ หมุนเวียน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (BCG) ของรัฐ

BCG ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติโดยรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา สนับสนุนให้ผู้ผลิตนำเทคนิคที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ในขณะที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุริยะกล่าวว่าการลดภาษีมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้รัฐบาลลดการใช้วัสดุพลาสติกรวมถึงผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียว บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าปลีกเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล เนื่องจากพวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกจำนวนมาก

วราวรรณ ชิตจรูญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการลดหย่อนภาษีต้องซื้อ
ผลิตภัณฑ์พลาสติกย่อยสลายได้ จากผู้ผลิตที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรม

เธอเสริมว่าจนถึงขณะนี้ กระทรวงได้ให้การรับรองบริษัท 7 แห่ง ซึ่งได้รับใบอนุญาต 72 รายการสำหรับผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพต่างๆ ผลิตภัณฑ์ได้แก่ หลอดพลาสติก ถุงขยะพลาสติก ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และถุงซิปล็อคพลาสติก

ตามที่กรมควบคุมมลพิษระบุว่า
ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่ปล่อยขยะพลาสติกในทะเล ประเทศนี้สร้างขยะพลาสติกประมาณ 2 ล้านตันต่อปี แต่ประเทศนี้รีไซเคิลเพียง 25% เท่านั้น

รัฐบาลออกนโยบายห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในปี 2561 และเริ่มด้วยการขอให้ผู้ค้าปลีกงดแจกถุงพลาสติกให้ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563

อย่างไรก็ตาม การรณรงค์ได้รับผลกระทบเมื่อประเทศไทยเข้าสู่การล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปลายปีนั้น แนวทางการทำงานจากที่บ้านทำให้บริการจัดส่งอาหารเฟื่องฟู ซึ่งต่อมาต้องใช้ถุงพลาสติกมากขึ้น

การพัฒนาวัสดุพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพร่วมกับการใช้เทคโนโลยีชีวเคมีและชีวเวชภัณฑ์เป็นไปตามแผนของรัฐบาลที่ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางชีวภาพในอาเซียนภายในปี 2570./.





ข่าวต้นฉบับ